เหตุผลที่ไม่ควรกินผลไม้ตอนท้องว่าง

ทำไมไม่ควรกินผลไม้ตอนท้องว่าง ?

สาเหตุที่หลายคนแนะนำว่าไม่ควรกินผลไม้ในขณะท้องว่างมีหลายปัจจัยค่ะ

  1. ความเป็นกรดของผลไม้บางชนิด – ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด มีกรดซิตริกสูง หากท้องว่างและกรดในกระเพาะยังไม่มีอาหารมาลดความระคายเคือง อาจทำให้เกิดอาการแสบท้องหรือเพิ่มความเป็นกรดในกระเพาะ ส่งผลให้มีโอกาสเป็นกรดไหลย้อนมากขึ้นค่ะ
  2. น้ำตาลในผลไม้และระดับน้ำตาลในเลือด – ผลไม้มีน้ำตาลฟรุกโตส เมื่อกินตอนท้องว่าง น้ำตาลจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งขึ้นและตกลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้รู้สึกวิงเวียน เหนื่อย หรือต้องการอาหารเพิ่มค่ะ
  3. ต่อมย่อยอาหารและระบบทางเดินอาหาร – การที่ผลไม้มีไฟเบอร์สูง เมื่อเข้ากระเพาะในขณะท้องว่าง อาจกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้มากขึ้น บางคนอาจรู้สึกปวดท้องหรือถ่ายเหลวโดยเฉพาะถ้าเป็นคนระบบย่อยบอบบางค่ะ

ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่ากินผลไม้ตอนท้องว่างจะเป็นอันตรายเสมอไปนะคะ คนที่สุขภาพดี ระบบย่อยแข็งแรง กินผลไม้ที่มีความเป็นกรดต่ำ เช่น กล้วย แตงโม แอปเปิ้ล ในปริมาณพอเหมาะก็ยังปลอดภัยค่ะ แต่สำหรับคนที่มีโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน หรือระบบย่อยอ่อนแอ ควรกินผลไม้หลังอาหารสัก 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายย่อยได้ดียิ่งขึ้นและลดความเสี่ยงการระคายเคืองค่ะ

ในภาพรวม การเลือกเวลาและชนิดผลไม้ให้เหมาะกับสภาพร่างกายของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ถ้าอยากกินผลไม้ตอนเช้า ควรเริ่มด้วยชนิดที่อ่อนโยนต่อกระเพาะและกินร่วมกับอาหารอื่น ๆ เช่น โยเกิร์ต หรือขนมปังโฮลวีต เพื่อรักษาสมดุลของระบบย่อยค่ะ