การประเมินว่าทารกได้ยินปกติหรือไม่จากพฤติกรรมตอบสนองต่อเสียง

ทารก ที่ตรวจหู ตรวจการได้ยินไม่ผ่าน ต้องรักษายังไงครับ

ถ้าทารกตรวจหูหรือการได้ยินไม่ผ่าน ขั้นตอนต่อไปที่ควรทำคือการประเมินและติดตามอย่างเป็นระบบค่ะ เพราะการได้ยินมีความสำคัญต่อพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสารของเด็กอย่างมาก

แนวทางการดูแลเบื้องต้น

  • ตรวจซ้ำ: ในหลายกรณีการไม่ผ่านครั้งแรกอาจเกิดจากปัจจัยชั่วคราว เช่น ขี้หูอุดตัน น้ำในหู หรือเสียงรบกวนระหว่างตรวจ ควรทำการตรวจซ้ำภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ
  • ส่งพบแพทย์เฉพาะทางโสต ศอ นาสิก: หากตรวจซ้ำแล้วยังไม่ผ่าน แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น การตรวจ ABR (Auditory Brainstem Response) หรือ OAE (Otoacoustic Emissions) เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงค่ะ
  • รักษาตามสาเหตุ:
    • ถ้ามีการอักเสบติดเชื้อในหู หรือมีน้ำในหู อาจให้ยาหรือทำการรักษาเพื่อขจัดสาเหตุ
    • ถ้าเป็นความผิดปกติของระบบประสาทหรือโครงสร้างหู อาจพิจารณาการใช้เครื่องช่วยฟังหรือการฝึกฟังเสียงค่ะ
    • ในบางกรณีอาจต้องใช้การผ่าตัด เช่น ใส่ท่อระบายในหูชั้นกลางค่ะ

การติดตามและพัฒนาการ

  • เด็กที่มีความผิดปกติด้านการได้ยิน ควรเริ่มใช้เครื่องช่วยฟังหรือเริ่มโปรแกรมฝึกพูดโดยเร็วที่สุด (ก่อนอายุ 6 เดือน) เพื่อให้มีโอกาสพัฒนาภาษาใกล้เคียงกับเด็กปกติค่ะ
  • ควรมีการติดตามโดยนักแก้ไขการพูดและการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง
  • ผู้ปกครองควรให้ความช่วยเหลือด้านสิ่งแวดล้อม เช่น พูดกับเด็กอย่างชัดเจน ใช้ภาษามือเสริม และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบเพื่อลดสิ่งรบกวนค่ะ

หากคุณต้องการ ฉันสามารถทำ “รายการตรวจเพิ่มเติมและแผนการรักษา” ที่ครอบคลุมสำหรับทารกในกรณีนี้ให้ได้ค่ะ เพื่อให้คุณนำไปคุยกับแพทย์ได้สะดวกขึ้นค่ะ

ถ้าเด็กหลัง6เดือน เรียกชื่อหัน กระซิบหัน ได้ยินเสียงอะไรหัน หรือเสียงดังเกินก็จะตกใจ แบบนี้คือการได้ยินของเขาปกติใช่ไหมครับ

จากการที่คุณเล่าว่า เด็กหลัง 6 เดือนสามารถหันเมื่อถูกเรียกชื่อ หันเมื่อมีเสียงกระซิบ หรือเสียงอื่น ๆ และเมื่อมีเสียงดังมากก็จะแสดงอาการตกใจ นับว่าเป็นสัญญาณเชิงพฤติกรรมที่บ่งบอกว่าการได้ยินของเด็กน่าจะอยู่ในเกณฑ์ปกติค่ะ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้แสดงถึงความสามารถในการรับเสียงทั้งเบาและดัง รวมถึงการรับรู้ทิศทางเสียงและการแยกแยะเสียงค่ะ

อย่างไรก็ตาม แม้พฤติกรรมจะดูเหมือนปกติ แต่ก็ยังมีบางความผิดปกติของการได้ยินที่อาจไม่แสดงออกชัดในชีวิตประจำวัน เช่น การสูญเสียการได้ยินบางช่วงคลื่นความถี่ (High-frequency hearing loss) หรือได้ยินชัดเพียงในบางระดับเสียง ซึ่งอาจส่งผลต่อการเรียนรู้ภาษาในอนาคตค่ะ ดังนั้นการตรวจการได้ยินแบบทางการ (เช่น ABR หรือ OAE) ยังคงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยืนยันผลค่ะ

ถ้าผลตรวจเดิมเคย “ไม่ผ่าน” แล้วพฤติกรรมปัจจุบันดูเหมือนปกติ แนะนำ

  • ตรวจซ้ำ เพื่อยืนยัน ไม่มีปัญหาง่าย ๆ เช่น น้ำในหู หรือการติดเชื้อ
  • ติดตามพัฒนาการด้านภาษา หลัง 9-12 เดือน เด็กควรสามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ และเริ่มพูดคำแรกได้
  • สังเกตต่อเนื่อง หากเด็กมีปัญหาพูดช้า ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกบางครั้ง ควรนำไปตรวจทันทีค่ะ

สรุปคือพฤติกรรมที่คุณเล่า “มีความน่าจะเป็นสูง” ว่าการได้ยินของเด็กปกติ แต่เพื่อความมั่นใจและป้องกันผลกระทบในระยะยาว ควรตรวจยืนยันกับแพทย์อีกครั้งค่ะ