เมื่อมีอาการเลือดกำเดาไหล ควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่
การมีเลือดกำเดาไหลถือเป็นอาการที่พบได้บ่อย แต่บางครั้งอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการตรวจจากแพทย์ค่ะ โดยสัญญาณที่ควรไปพบแพทย์ทันที ได้แก่
- เลือดกำเดาไหลไม่หยุด ภายใน 15–20 นาที แม้จะกดจมูกและก้มศีรษะลงแล้วค่ะ
- เลือดกำเดาไหลรุนแรง หรือปริมาณมากจนรู้สึกเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือมีอาการอ่อนแรงร่วมด้วยค่ะ
- มีเลือดออกจากจมูกบ่อยเกิน 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือเป็นต่อเนื่องหลายสัปดาห์ค่ะ
- เลือดออกพร้อมอาการอื่น เช่น ช้ำง่าย เลือดออกตามไรฟัน หรือมีผื่นเลือดออกใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาเลือดหรือเกล็ดเลือดค่ะ
- มีประวัติการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือจมูกก่อนเกิดเลือดกำเดาไหลค่ะ
ในกรณีทั่วไป เลือดกำเดาไหลอาจเกิดจากสาเหตุที่ไม่รุนแรง เช่น อากาศแห้ง การสั่งน้ำมูกแรง การเกาหรือขยี้จมูก หรือแพ้อากาศค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเลือด หรือกำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (เช่น warfarin, aspirin) ควรพบแพทย์เพื่อประเมินทันทีค่ะ เพราะมีโอกาสที่เลือดจะหยุดยากหรือมีความเสี่ยงต่อภาวะอื่น ๆ ที่รุนแรงค่ะ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเลือดกำเดาไหล ได้แก่ นั่งในท่าก้มศีรษะเล็กน้อย ใช้นิ้วบีบปีกจมูกทั้งสองข้างประมาณ 10–15 นาที หลีกเลี่ยงการเงยหน้าหรือแหย่สิ่งใดเข้าไปในจมูก หลังเลือดหยุด ควรพักและงดกิจกรรมที่ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้นค่ะ แต่หากทำแล้วไม่หยุดหรือมีอาการน่ากังวลตามที่กล่าวมา ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ