แนวทางเมื่อเผลอมีเพศสัมพันธ์และหลั่งในโดยไม่ป้องกัน

มีเพศสัมพันธ์แล้วเผลอหลั่งใน ไม่ป้องกัน ควรทำอย่างไรต่อไป

หากเผลอมีเพศสัมพันธ์แล้วหลั่งในโดยไม่ใช้การป้องกัน สิ่งที่ควรทำต่อไปมีดังนี้ค่ะ

1. ประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจเรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ฉุกเฉิน

  • หากต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ สามารถใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency Contraceptive Pill) โดยควรรับประทานให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ (ภายใน 72 ชั่วโมง) ยิ่งรับประทานเร็ว ประสิทธิภาพยิ่งสูงค่ะ
  • มีอยู่ 2 ชนิดหลัก:
    1. Levonorgestrel – รับประทานภายใน 72 ชั่วโมง ยิ่งเร็วยิ่งดี
    2. Ulipristal acetate – รับประทานภายใน 120 ชั่วโมง (มีประสิทธิภาพสูงกว่าในช่วงเกิน 72 ชั่วโมง)
  • ถ้ามีการตกไข่แล้ว ยาคุมฉุกเฉินอาจลดประสิทธิภาพลงค่ะ

2. พิจารณาเรื่องการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD/STI)

  • หากคู่ของคุณไม่แน่ใจเรื่องสุขภาพ อาจจำเป็นต้องตรวจหาโรคติดต่อ เช่น HIV ซิฟิลิส หนองใน เริม หรือ HPV ค่ะ
  • การตรวจอาจทำได้หลังจากเหตุการณ์ไปแล้วตามช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น HIV ตรวจซ้ำในช่วง 1-3 เดือนหลังมีความเสี่ยง
  • หากรู้ว่ามีความเสี่ยงสูงต่อ HIV สามารถรับ ยาป้องกันหลังสัมผัส (PEP - Post Exposure Prophylaxis) ภายใน 72 ชั่วโมงค่ะ ซึ่งต้องพบแพทย์ทันที

3. การติดตามผลและวางแผนต่อไป

  • หากใช้ยาคุมฉุกเฉิน ควรเฝ้าสังเกตประจำเดือนว่าเลื่อนหรือมาช้า หากเลยเวลาไปแล้วมากกว่า 7 วัน ควรตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ
  • วางแผนใช้วิธีคุมกำเนิดถาวรหรือสม่ำเสมอ เช่น ยาคุมรายเดือน, ถุงยางอนามัย, ห่วงอนามัย เพื่อป้องกันทั้งการตั้งครรภ์และโรคติดต่อ
  • ควรมีการพูดคุยและตกลงกับคู่เพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคตค่ะ