วิธีการวินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome)

การวินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวนทำอย่างไร?

การวินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) มักอาศัยการประเมินตามประวัติอาการและการตรวจร่างกายร่วมกับการตัดโรคอื่นออกค่ะ โดยหลักการทั่วไปจะใช้ เกณฑ์ Rome IV ซึ่งเน้นการวิเคราะห์อาการสำคัญ ได้แก่

  • มีอาการปวดหรือไม่สบายท้องอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
  • อาการสัมพันธ์กับการขับถ่าย (ดีขึ้นหรือแย่ลงหลังถ่าย)
  • การเปลี่ยนแปลงรูปแบบอุจจาระ (แข็ง, เหลว หรือสลับกัน)
  • ความถี่การขับถ่ายเปลี่ยนไปจากเดิมค่ะ

ขั้นตอนการวินิจฉัยโดยทั่วไปจะประกอบไปด้วย

  1. การซักประวัติอย่างละเอียด — แพทย์จะถามถึงอาการ ปริมาณและลักษณะอุจจาระ ปัจจัยกระตุ้น รวมถึงประวัติครอบครัวของโรคทางเดินอาหารค่ะ
  2. การตรวจร่างกาย — เพื่อประเมินอาการผิดปกติ เช่น ท้องอืด กดเจ็บเฉพาะจุด
  3. การตรวจเพิ่มเติมเพื่อตัดโรคอื่นออก — เช่น ตรวจเลือด, ตรวจอุจจาระ, อัลตราซาวด์ช่องท้อง หรือส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ในกรณีที่มีอาการหรือสัญญาณเตือน เช่น ถ่ายเป็นเลือด น้ำหนักลดเร็ว หรือมีไข้ค่ะ

สุดท้ายแล้ว การยืนยันว่าเป็น IBS จะทำหลังจากโรคอื่นที่มีอาการคล้ายกัน เช่น โรคลำไส้อักเสบ (IBD), มะเร็งลำไส้, การติดเชื้อ ถูก排除แล้วค่ะ การประเมินที่เหมาะสมควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ระบบทางเดินอาหาร เพื่อให้ได้การรักษาที่ตรงจุดและลดการกลับมาเป็นซ้ำค่ะ