แผลเป็นจากอุบัติเหตุรถล้มมีอาการคันและน้ำเหลืองหลังผ่านไปหลายเดือน


แผลเป็นอันนี้เกิดจากรถล้มเมื่อประมาณ5เดือนก่อน แล้วตอนนี้มีอาการคันร่วม แล้วก็ทำให้เหมือนแผลกว้างขึ้น

มีน้ำเหบืองออกตรงบริเวณที่เดานิดหน่อยค่ะ

จากภาพและอาการที่คุณเล่ามา เห็นว่าแผลเป็นหลังรถล้มเมื่อ 5 เดือนก่อนยังมีรอยแดง คัน และเริ่มมีน้ำเหลืองออกมาเล็กน้อย แสดงว่าบริเวณดังกล่าวอาจอยู่ในภาวะอักเสบหรือติดเชื้อ ทำให้ผิวไม่สามารถฟื้นฟูกลับสู่สภาพปกติได้สมบูรณ์ค่ะ ความเป็นไปได้มีดังนี้ค่ะ

  • แผลเป็นคีลอยด์หรือแผลนูน (Hypertrophic Scar): แผลประเภทนี้อาจมีอาการคันต่อเนื่องเพราะร่างกายสร้างเนื้อเยื่อมากเกินไปค่ะ
  • ผิวหนังระคายเคืองหรือแพ้ (Contact Dermatitis): อาจเกิดจากครีม ยาทา หรือแม้แต่เหงื่อ/ฝุ่นที่ไปกระตุ้นผิวค่ะ
  • การติดเชื้อผิวหนัง (Secondary Infection): หากมีน้ำเหลืองร่วมกับบวม แดง หรืออุ่น อาจมีเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราร่วมค่ะ
  • การหายของแผลล่าช้า (Delayed Healing): อาจเกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนเลือดบริเวณขาหรือโรคประจำตัว เช่น เบาหวานค่ะ

คำแนะนำเบื้องต้น

  1. หลีกเลี่ยงการเกา เพราะจะทำให้ผิวฉีกขาดและติดเชื้อง่ายขึ้นค่ะ
  2. ทำความสะอาดแผลวันละครั้งด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ (Normal Saline) แล้วซับให้แห้งค่ะ
  3. หากน้ำเหลืองยังมี ให้ใช้ผ้าก๊อซสะอาดปิดเพื่อกันเชื้อโรคค่ะ
  4. หากคันมาก อาจใช้ครีมสเตียรอยด์อ่อน ๆ ตามคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรค่ะ
  5. หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือสมุนไพรโดยไม่ทราบส่วนผสม เพราะอาจกระตุ้นการแพ้ค่ะ

ควรไปพบแพทย์หาก

  • น้ำเหลืองมากขึ้น บวม แดง ร้อน หรือปวดมาก
  • แผลมีหนองหรือกลิ่น
  • มีไข้หรือรู้สึกไม่สบายตัว
  • แผลขยายกว้างและไม่ดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์

เนื่องจากตอนนี้เริ่มมีน้ำเหลือง แนะนำให้พบแพทย์หรือคลินิกใกล้บ้านเพื่อตรวจดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ และอาจต้องได้รับยาฆ่าเชื้อหรือการดูแลแผลเฉพาะทางค่ะ