วิ่งช้าหรือวิ่งเร็ว อันไหนช่วยเผาผลาญไขมันได้มากกว่ากัน?
การวิ่งช้าหรือวิ่งเร็วมีกลไกการใช้พลังงานและการเผาผลาญไขมันที่แตกต่างกันค่ะ
- วิ่งช้า (Low-intensity steady state): ร่างกายจะใช้พลังงานจากไขมันเป็นหลักมากกว่า เพราะหัวใจและกล้ามเนื้อไม่ได้ทำงานหนักจนต้องดึงพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตอย่างเร่งด่วน ทำให้เหมาะกับการวิ่งระยะเวลานาน และช่วยเสริมระบบหัวใจและหลอดเลือดได้ดีค่ะ
- วิ่งเร็ว (High-intensity): ร่างกายจะดึงพลังงานจากไกลโคเจน (คาร์โบไฮเดรตที่สะสมในกล้ามเนื้อ) มากกว่าในช่วงการออกกำลังกาย แต่หลังจากนั้นจะมี Afterburn effect หรือ EPOC (Excess Post-Exercise Oxygen Consumption) ที่ทำให้ร่างกายยังคงเผาผลาญพลังงานต่อเนื่องแม้จะหยุดวิ่งไปแล้วค่ะ
หากเป้าหมายคือ การเผาผลาญไขมันรวมตลอดวัน การผสมผสานทั้งการวิ่งช้าแบบ steady state และการวิ่งเร็วแบบ interval จะช่วยให้ได้ผลดีที่สุดค่ะ
- วิ่งช้า: เหมาะกับผู้เริ่มต้นและสามารถทำต่อเนื่องได้นาน
- วิ่งเร็วหรือ HIIT: เหมาะสำหรับเพิ่มความฟิตและเร่งการเผาผลาญรวม
- การออกกำลังกายควรคำนึงถึงความต่อเนื่อง ความหนักที่เหมาะสม และการพักฟื้นของร่างกายค่ะ
สรุปคือ ถ้าต้องการใช้พลังงานจากไขมันขณะวิ่งมากๆ ให้เน้นวิ่งช้าหรือวิ่ง moderate pace เป็นระยะเวลานาน แต่ถ้าต้องการเพิ่มการเผาผลาญพลังงานรวมต่อวันและพัฒนาการฟิต ให้ลองผสมการวิ่งเร็วเป็นช่วงๆ ค่ะ