ฉีดยาคุมแบบ1เดือนแต่ประจำเดือนไม่มา
การฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 1 เดือน (ส่วนใหญ่เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินผสมกัน) อาจส่งผลให้รอบเดือนเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ โดยอาการ “ประจำเดือนไม่มา” หรือขาดรอบเดือนเป็นสิ่งที่พบได้ในบางคน เนื่องจากฮอร์โมนในยาจะไปยับยั้งการตกไข่ และอาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง จึงไม่มีเลือดประจำเดือนออกมาค่ะ
สาเหตุที่ประจำเดือนไม่มาหลังฉีดยาคุมแบบ 1 เดือน อาจเกิดจาก:
- ผลของฮอร์โมนจากยาคุม: รบกวนรอบเดือน ทำให้เลื่อน ประจำเดือนมาน้อย หรือขาดไป
- การปรับตัวของร่างกาย: ในช่วง 3-6 เดือนแรก ร่างกายยังปรับสมดุลฮอร์โมนใหม่
- ปัจจัยอื่นๆ: ความเครียด น้ำหนักตัวเปลี่ยนเร็ว ภาวะโลหิตจาง หรือปัญหาสุขภาพอื่น
- ตั้งครรภ์: หากฉีดไม่ตรงเวลา หรือมีการขาดช่วง อาจมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ค่ะ
สิ่งที่ควรทำคือ
- หากประจำเดือนไม่มามากกว่า 1 รอบ ควรตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความแน่ใจค่ะ
- สังเกตอาการร่วม เช่น คลื่นไส้ เจ็บหน้าอก หรือเลือดออกกะปริดกะปรอย
- หากมีอาการผิดปกติมาก เช่น ปวดท้องรุนแรง เลือดออกมากผิดปกติ ควรพบแพทย์ทันทีค่ะ
- หากรอบเดือนขาดหลายเดือนและตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ อาจต้องปรึกษาแพทย์เพื่อปรับวิธีคุมกำเนิดหรือยาที่ใช้ค่ะ
ถ้าต้องการ ฉันสามารถช่วยแนะนำวิธีตรวจตั้งครรภ์ด้วยตนเองและสัญญาณเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ให้ได้ค่ะ สนใจให้ช่วยไหมคะ?