ผลเสียจากการใช้วิตามิน B3 (ไนอะซิน) ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

การใช้ Vitamin B3 ต่อเนื่องเป็นเวลานานมีผลเสียหรือไม่?

การใช้วิตามิน B3 หรือไนอะซิน (Niacin) ในระยะยาวสามารถให้ผลดีต่อร่างกายได้ เช่นช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงานและดูแลสุขภาพผิว รวมถึงมีบทบาทต่อระบบประสาทค่ะ อย่างไรก็ตาม การรับในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่องอาจมีผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงบางประการที่ควรระวังค่ะ

ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ระยะยาวหรือในปริมาณสูง

  • ผิวแดง ร้อน หรือคัน (Flushing): เป็นอาการพบบ่อยเมื่อรับไนอะซินขนาดสูง อาจเกิดร้อนชั่วคราวทั่วร่างกายค่ะ
  • ปัญหาตับ: การใช้ในปริมาณเกิน 1,000–2,000 มก./วันเป็นเวลานาน เสี่ยงทำให้ค่าการทำงานของตับผิดปกติหรือเกิดตับอักเสบค่ะ
  • ระบบทางเดินอาหาร: อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือท้องเสียค่ะ
  • ระดับน้ำตาลและยูริกในเลือดสูง: ไนอะซินขนาดสูงมีผลต่อการเผาผลาญน้ำตาลและกรดยูริก ทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวานหรือเกาต์ค่ะ
  • ความดันโลหิตต่ำ: บางคนอาจเกิดความดันต่ำทำให้เวียนหัวค่ะ

โดยทั่วไป การรับวิตามิน B3 ในปริมาณตามคำแนะนำต่อวัน (สำหรับผู้ใหญ่ประมาณ 14–16 มก./วัน) ถือว่าปลอดภัยค่ะ แต่หากใช้ในขนาดสูงเพื่อจุดประสงค์ในการรักษา เช่น ลดไขมันในเลือด ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และตรวจเลือดเป็นระยะเพื่อดูค่าการทำงานของตับ น้ำตาล และไขมันค่ะ ดังนั้น หากต้องการใช้ต่อเนื่องควรปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสมและลดความเสี่ยงค่ะ