สาเหตุของการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน

การติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานเกิดจากสาเหตุใด?

การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Pelvic Inflammatory Disease (PID) มักเกิดจากการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียจากช่องคลอดหรือปากมดลูกเข้าสู่อวัยวะสืบพันธุ์ภายใน เช่น มดลูก ท่อนำไข่ และรังไข่ค่ะ สาเหตุหลัก ๆ ที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • การติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ (Neisseria gonorrhoeae) และ หนองในเทียม (Chlamydia trachomatis) ค่ะ
  • การเจริญของเชื้อแบคทีเรียปกติในช่องคลอด (เช่น Gardnerella vaginalis) ที่เข้าสู่โพรงมดลูกในบางสถานการณ์ เช่น หลังการคลอดบุตร หลังการแท้ง หรือหลังการทำหัตถการภายในมดลูกค่ะ
  • ในบางรายเกิดจากการติดเชื้อหลังใส่อุปกรณ์คุมกำเนิดชนิดห่วง (IUD) หรือหลังการผ่าตัดบริเวณเชิงกรานค่ะ

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ได้แก่

  1. มีคู่นอนหลายคนหรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
  2. เคยมีประวัติติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน
  3. มีการสวนล้างช่องคลอดบ่อย ซึ่งอาจทำให้สมดุลของจุลินทรีย์ธรรมชาติในช่องคลอดเสียไปค่ะ
  4. การทำหัตถการทางสูตินรีเวช เช่น การขูดมดลูก หรือการใส่ IUD โดยไม่มีการป้องกันการติดเชื้อที่ดีค่ะ

โดยทั่วไป อาการของการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานอาจประกอบด้วย ปวดท้องน้อย มีไข้ ตกขาวมากผิดปกติหรือมีกลิ่น มีเลือดออกระหว่างรอบเดือน หรือเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ค่ะ การวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็วสำคัญมากเพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดพังผืดบริเวณท่อนำไข่ ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ในอนาคตค่ะ