อาการบวมน้ำเกิดจากอะไร?
อาการบวมน้ำ (Edema) เกิดจากการที่ของเหลวส่วนเกินสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย ทำให้บริเวณนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือรู้สึกตึงค่ะ สาเหตุสามารถแบ่งออกได้หลายกลุ่ม เช่น
- เกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด: หัวใจล้มเหลว หลอดเลือดดำทำงานผิดปกติ หรือการอุดตันของหลอดเลือดดำ ทำให้เลือดและของเหลวคั่งในแขนหรือขาค่ะ
- เกี่ยวกับไต: โรคไตเรื้อรังหรือไตอักเสบ ส่งผลให้ร่างกายขับน้ำและเกลือออกไม่เพียงพอ
- เกี่ยวกับตับ: โรคตับแข็งทำให้ระดับโปรตีนอัลบูมินในเลือดลดลง ส่งผลให้ของเหลวซึมออกจากหลอดเลือดค่ะ
- ฮอร์โมนและเกลือแร่: ภาวะไม่สมดุลของฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ หรือมีการกักเก็บโซเดียมมากเกินไป
ในบางกรณีอาการบวมน้ำอาจเกิดจากปัจจัยชั่วคราว เช่น การนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน การตั้งครรภ์ การใช้ยาบางชนิด (เช่น สเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด หรือยาลดความดันบางกลุ่ม) รวมถึงการรับประทานอาหารเค็มมากเกินไปค่ะ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ของเหลวซึมจากหลอดเลือดไปสะสมในเนื้อเยื่อโดยร่างกายยังไม่สามารถระบายออกให้สมดุลได้เร็วพอค่ะ
การประเมินสาเหตุควรดูทั้งประวัติสุขภาพ อาการร่วม และตำแหน่งของบวม เช่น บวมเฉพาะขา มือ หรือทั่วร่างกาย เพื่อแยกว่ามาจากระบบใด การตรวจเพิ่มเติมอาจรวมถึงการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือการทำอัลตราซาวด์/เอกซเรย์ เพื่อหาสาเหตุแท้จริงค่ะ ถ้ามีอาการบวมร่วมกับหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หรือบวมรวดเร็วผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ทันทีค่ะ