ช่องคลอดมีกลิ่นและมีเมือกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ระหว่างมีประจำเดือน

สวัสดี​ คือหนู มีปัญหาเรื่องช่องคลอดมีกลิ่นค่ะ กลิ่นเหม็นเหม็นคาวๆ เป็นเมื่อสายๆและก็มีเยอะด้วยค่ะ ไม่รู้ว่ามันจะผิดปกติหรือเปล่าค่ะ หนูเพิ่งหายจากการเป็นประจำเดือนค่ะ ในช่วงมีประจำเดือนหนูก็มีเพศสัมพันธ์กับแฟนของหนู แรกๆก็ป้องกันค่ะ แต่หลังๆไม่ได้ป้องกันค่ะ แล้วแฟนหนูก็ปล่อยในไว้ค่ะ แล้วหนูก็กินยาคุมฉุกเฉิน หนูไม่รู้ว่ากลิ่นนี้มาจากไหน ปกติไม่เคยมีค่ะเพิ่งมาเคยมีเมื่อเช้า กลิ่นเหม็นมาก อยากถามคุณหมอว่ามันจะผิดปกติไหมคะหนูติดเชื้ออะไรหรือเปล่าหรือเป็นผลข้างเคียงเต็มจากการกินยาคุมฉุกเฉินหรือว่ามีเพศสัมพันธ์ระหว่างมีประจำเดือนคะ ขออนุญาตสอบถามหน่อยนะคะพอดีหนูกลุ้มใจมาก เมื่อเช้าตื่นมารู้สึกเหมือนเมนส์มา แต่ไม่ใช่เมนส์ เป็นเมือกใสๆแต่มีปริมาณปริมาณที่เยอะพอสมควร รบกวนขอถาม วิธีแก้วิธีรักษา หรือควรพบแพทย์ดีคะแต่ไม่มีอาการคัน มีแต่กลิ่น ผิดปกติมากไหมคะรบกวนขอสอบถามหน่อยค่ะขอบคุณค่ะ

เรื่องที่คุณกังวลเกี่ยวกับกลิ่นและเมือกในช่องคลอดอาจเกิดจากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างที่มีประจำเดือนและการใช้ยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลภายในช่องคลอด สำหรับสาเหตุที่เป็นไปได้มีดังนี้:

  1. การติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis): การติดเชื้อแบคทีเรียนาวงหนึ่งในช่องคลอดอาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นและมีของเหลวมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุร่วมสามัญของอาการที่คุณพูดถึงค่ะ
  2. การใช้ยาคุมฉุกเฉิน: ยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงชั่วคราว ซึ่งอาจมีผลให้เกิดความไม่สมดุลในช่องคลอดและทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ
  3. การติดเชื้ออื่นๆ: การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันขณะมีประจำเดือนอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้ออื่นๆ เช่น การติดเชื้อในช่องคลอดหรือช่องเชิงกราน การติดเชื้อพรีวิดส์ และการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ

วิธีการแก้ไขมีดังนี้ค่ะ:

  • การทำความสะอาดช่องคลอดอย่างถูกต้อง: หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีสภาพเป็นกรดหรือด่างสูง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหอมในบริเวณส่วนตัว ควรใช้สบู่อ่อนหรือเพียงการล้างด้วยน้ำเปล่าค่ะ
  • การเข้าพบแพทย์: เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม คุณควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม หากมีการติดเชื้อควรได้รับยาปฏิชีวนะหรือยาอื่นๆตามที่แพทย์สั่งค่ะ
  • หลีกเลี่ยงเพศสัมพันธ์ระหว่างมีประจำเดือน: หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและป้องกันการระคายเคืองในช่องคลอดค่ะ

ขอให้คุณหายห่วงและเรียบใช้วิธีการข้างต้นไปปฏิบัติค่ะ และอย่าลืมพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ละเอียดและรักษาทันเวลาค่ะ