ตอนนี้มีอาการคันบริเวณแวะยวะเพศและบริเวณรูทวารหนักมากค่ะ มีติ่งเนื้อสีชมพู มีน้ำไหลออกมาและมีอาการคันมาก มีกลิ่นเหม็นด้วยค่ะ เวลาถ่ายจะเจ็บ เกาจนปวดแสบปวดร้อน ทรมานมากค่ะ ก่อนหน้านี้มันคันที่ขาหนีบ ลามมาที่อวัยวะเพศภายนอก มาภายใน และช่องคลอด จนลามไปที่ก้น รูทวารหนัก เกามากๆจนเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน และพบว่ามีติ่งเนื้อสีชมพูอ่อน และมีผื่นแดง บริเวณอวัยวะเพศ มีอาการบวม คันมากๆในเวลากลางคืน คิดว่าเป็นเชื้อราใสข่องคลอดจึงซื้อยามาทาแต่กลับคันกว่าเดิม ใช้ยาสอดดีขึ้นแต่ก็ยังไม่หาย มันเริ่มลามเรื่อยไปเพราะเวลากินสัตว์ปีกยิ่งคันมากๆ จึงไปหาหมอ พบว่าเป็นโรคผิวหนังอักเสบ ทายาที่หมอให้และทานยาแก้แพ้แก้คัน อาการดีขึ้นเรื่อยๆเหมือนหาย แต่บริเวณรูทวารไม่หาย พอเลิกทานยากลับคันกว่าเดิม ติ่งเนื้อชัดขึ้นพอกดดูพบว่าเป็นก้อนอยู่ข้างใน เกาจนปวดแสบปวดร้อน เวลาถ่ายเจ็บ และมีเลือดปน จึงไปซื้อยาเภสัชกรบอกว่าเป็นริดสีดวงจึงซื้อยามาทาน อาการดีขึ้นแต่พอทายหมดก็ไม่หาย เริ่มกลับมาเป็น จนเป็นหนักเหมือนเดิม แต่แย่กว่าเดิมคือมันลามไปที่อวัยวะเพศอีกคันมากๆ มีกลิ่นเหม็นมีน้ำใสๆไหล ปวดแสบปวดร้อน แห้งถลอกจากการเกา มันทรมานมากๆ เวลาอากาศร้อนๆ เหงื่อออกมากๆก็จะคันบริเวณแขน ขา ข้อพับ มีผื่นขึ้น ถลอก แต่เมื่ออากาศไม่ร้อนก็จะหายเอง แต่บริเวณใต้ร่มผ้า คันไม่หาย เวลากลางคืนจะคันมากๆ ทำให้เสียความมั่นใจ อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการท้องผูก ถ่ายยากด้วย อยากทราบว่าเป็นอะไรกันแน่ เพราะไม่รู้จะทานยาอะไร ทายาอะไรให้หาย ไปหาหมออะไรเพราะอาการเป็นกลับไปกลับมาไม่หายขาด กลัวจะเป็นอย่างอื่นที่หนักๆ อ้อหนูมีแฟนเป็นผู้หญิง เคยมีเพศสัมพันธ์กันนะคะ แต่อาการมันเป็นมาก่อนหน้าที่จะมีเพศสัมพันธ์มาสักพัก จนถึงตอนนี้ก็เป็นมาหลายเดือนแล้วค่ะ มีอาการอื่นแทรกเข้ามา พอดีขึ้น แล้วก็กลับมาเป็นอีก ไม่หายขาดสักที ไม่ทราบว่าหนูควรทำยังไงดีคะ
จากการที่คุณบรรยายอาการมานั้น อาจเกี่ยวกับหลายปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องกัน อาการคันบริเวณอวัยวะเพศและรูทวารหนัก พร้อมกับการมีติ่งเนื้อและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ อาจบ่งบอกถึงสภาวะสุขภาพที่ซับซ้อน ซึ่งทำให้ต้องพิจารณาหลายปัจจัยก่อนจะหาทางแก้ไขที่ถูกต้อง ฉะนั้นขอชี้แจงรายละเอียดและคำแนะนำที่อาจช่วยได้:
- เชื้อรา: อาการคัน บวม และมีกลิ่นอาจเกิดจากการติดเชื้อรา เช่น Candida โดยเฉพาะในบริเวณที่อับชื้น
- ริดสีดวงทวาร: ติ่งเนื้อสีชมพูที่พบและอาการเจ็บเมื่อขับถ่าย อาจสัมพันธ์กับริดสีดวงทวาร ซึ่งเป็นปัญหาที่ควรให้แพทย์ตรวจ
- การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์: อาจเกิดจากการมีสัมผัสทางเพศสัมพันธ์ ถึงแม้อาการในบางคนจะเกิดก่อนหน้าการมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็อาจกระทบให้กลับเป็นหนักกว่าเดิม
คำแนะนำเบื้องต้น:
- การพิจารณาไปพบสูตินรีแพทย์หรือแพทย์ทางโรคผิวหนังอีกครั้งเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด เช่น การส่องกล้องหรือการตรวจชิ้นเนื้อ
- หยุดใช้ยาที่ทาเองและหาสาเหตุที่แน่นอนก่อน เนื่องจากยาที่ใช้เองอาจเพิ่มความรุนแรงของอาการ
- รักษาความสะอาด และหลีกเลี่ยงการเกาบริเวณที่คัน ปรับอาหารให้สมดุลและหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่อาจกระตุ้นการแพ้เช่นสัตว์ปีก
อย่าลืมว่า การไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอและรักษาตามคำแนะนำแพทย์จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการปัญหานี้ค่ะ ขอให้คุณรักษาสุขภาพและดูแลตัวเองอย่างดีนะคะ