เป็นผื่นแพ้จากพลาสเตอร์ขนาดใหญ่มาก(แทบทั้งขา)ค่ะ
มีอาการคันมาก และที่ข้อเท้ามีอาการบวมและคันมากเช่นกันค่ะ สาเหตุคือเข้ารับการรักษากระดูกสะโพกร้าว หมอได้ติดพลาสเตอร์แผ่นใหญ่ก็คือตามรอยผื่นเลยค่ะ แล้วก็ใช้ผ้ายืดพันขา (ตามภาพที่แนบเลยค่ะ) และถ่วงลูกตุ้มขนาด 3 กิโล เป็นเวลานานกว่า 5 วัน ซึ่งหมอที่ดูแลได้เห็นผื่นหลังจากลอกพลาสเตอร์ออก และได้ให้คารามายทา แต่ไม่ดีขึ้นเลยค่ะ ตอนนี้ได้กลับมารักษาตัวที่บ้านแล้วค่ะ และได้ไปร้านขายยา เภสัชกรแนะนำยาชื่อ DERTEC Cream มาทาแทนการใช้คารามายค่ะ อาการคันลดลงบ้างถ้าไม่ไปเกา ถ้าหากเผลอเกาก็จะยิ่งคันมากเหมือนเดิมค่ะ สีผื่นยังคงเข้ม บางจุดเป็นรอยคล้ำๆ เหมือนรอยไหม้ ในส่วนข้อเท้าก็บวมปิดตาตุ่มทั้ง 2 ด้าน และบวมตรงข้อผับ มีอาการคันตรงที่บวมค่ะ (ตามภาพที่ได้แนบไป เทียบกับขาอีกข้างนะคะ) อยากทราบวิธีรักษาการดูแลด้วยตัวเองค่ะ ยาที่ใช้ทา โอเคแล้วใช่มั้ยคะ และอยากทราบว่าอาการขนาดไหน ถึงควรจะไปพบแพทย์ทันทีคะ ขอบคุณค่ะ
จากที่คุณเล่ามีผื่นแพ้จากพลาสเตอร์ขนาดใหญ่และอาการคันทั้งขา และข้อเท้าที่บวม ควรเริ่มจากการปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้:
-
การใช้ยาทาภายนอก: การใช้ DERTEC Cream ที่เภสัชกรแนะนำมาทาทำให้อาการคันลดลงได้ ถ้าคุณรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอหรืออาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อพิจารณายาทาอื่นๆ หรือยาในรูปแบบที่แตกต่าง เช่น ยาสเตียรอยด์ซึ่งอาจจะต้องได้รับการจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น
-
การดูแลเบื้องต้น:
- หลีกเลี่ยงการเกา: ถึงแม้ว่าจะคันแค่ไหน ควรหลีกเลี่ยงการเกาเพราะยิ่งเกาก็จะยิ่งทำให้ผื่นรุนแรงขึ้น เพื่อลดอาการคัน คุณสามารถใช้เครื่องทำความเย็น หรือน้ำแข็งห่อผ้าเย็นๆ มาประคบแทน
- รักษาความสะอาด: ดูแลบริเวณที่เป็นผื่นให้สะอาดและแห้ง ถ้าหากมีแผลเปิด ควรใช้ยาฆ่าเชื้อเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง: ไม่ควรใช้สบู่ที่มีสารเคมีรุนแรงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมเข้มข้น
-
เมื่อควรไปพบแพทย์ทันที:
- หากอาการบวมเพิ่มขึ้น หรือมีอาการเจ็บปวดหนักขึ้น
- หากมีของเหลวไหลออกจากรอยผื่นหรือมีอาการคล้ายติดเชื้อ เช่น มีไข้ หรือความร้อนบริเวณที่บวมมากเกินไป
- หากมีอาการที่ไม่สามารถบรรเทาได้หลังจากการดูแลตนเองครบ 1 สัปดาห์
อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าอาการผื่นของคุณต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดค่ะ