กังวลว่าตั้งครรภ์หลังจากการมีเพศสัมพันธ์และการใช้ยาคุมกำเนิดครั้งแรก

พอดีว่ามีอะไรกับแฟนแล้วแฟนไม่ใส่ถุงยาง(แต่ไม่ได้หลั่งใน)​พึ่งมากินยาคุมกำเนิดหลังจากมีอะไรกับแฟนประมาณ3วันค่ะ(กินยาคุมครั้งแรกด้วย)​2-3วันที่กินยาคุมมีอาการมวลๆท้องอยากอ้วกในเฉพาะตอนเช้า(แต่ไม่อ้วก)เป็นแบบนี้ประมาณราวๆอาทิตย์​แล้วอาการก็หายไปแต่มีอาการคัดเต้านมปวดท้องน้อยจี้ดๆบางครั้งตกขาวขุ่นๆเลยซื้อที่ตรวจมาตรวจตอนกินยาคุมถึงเม็ดที่19(แผง28เม็ด)ผลออกมาขึ้นขีดเดียวตอนนี้มีอาการตกขาวใสเหนียวยืด3-4วันแล้วค่ะแล้วก็คัดเต้านมมาตลอดตั้งแต่กินยาคุมเลยค่ะตอนนี้กังวลว่าจะท้องค่ะประจำเดือนเลทมาประมาน13วันแล้วด้วย

สวัสดีค่ะ น้องเอ๋ย ใจเย็นๆและมาเช็คข้อมูลกันหน่อยค่ะ

การที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยและเร่งกินยาคุมกำเนิดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 3 วันนั้น ยาคุมกำเนิดที่กินหลังเหตุการณ์ไม่อาจมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ค่ะ โดยปกติยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานอาจใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงในการเริ่มทำงานถ้าสามารถเริ่มได้ทันที แต่ในกรณีที่แล้วมา 3 วัน การใช้ยาคุมกันอาจจะไม่ได้ผล

อาการที่กล่าวมานั้นมีหลายอย่างรวมถึง คลื่นไส้, อาการคัดเต้านม, ตกขาว, และประจำเดือนเลท ล้วนเป็นอาการที่พบได้ทั้งในคนที่ท้องและคนที่ใช้ยาคุมแล้วเกิดปฏิกิริยาเคียง พึงคำนึงไว้ว่าการกินยาคุมครั้งแรกอาจมีผลข้างเคียงทันทีที่ทำให้ประจำเดือนมาช้าหรือเกิดอาการคัดเต้านมได้ค่ะ

คุณได้บอกว่าซื้อตัวตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจตอนยาคุมถึงเม็ดที่ 19 ผลออกมาขึ้นขีดเดียว สิ่งนี้หมายถึงไม่ท้องค่ะ แต่เนื่องจากประจำเดือนเลทมาประมาณ 13 วันแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อเช็คอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และหารือแพทย์สำหรับการเลือกวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมในอนาคตนะคะ

โปรดระลึกไว้ว่า ความเครียดและความกังวลเองก็สามารถทำให้รอบเดือนเลทได้ ขอให้พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพอย่างดี และให้แน่ใจว่าทุกสิ่งที่เป็นปกติค่า

หมวดหมู่: Reproductive & Sexual Health (id: 32)