หนูอายุ 17 ค่ะ เมื่อเมษาที่ผ่านมาช่วยตัวเองแล้วมีเลือดปนเมือกใสไหลออกจากช่องคลอดจำนวนไม่เยอะมากประมาณ1-2วันมีอาการปวดท้องแบบหน่วงๆแต่ไม่มาก มีหลังจากประจำเดือนหมดประมาณ 12-15 วัน พอเดือนถัดมาหลังจากประจำเดือนหมด 12-15 ได้มีการช่วยตัวเองอีก แล้วก็มีเลือดปนเมือกใสๆไหลมาอีก2-3วันมีอาการหน่วงๆท้องน้อย เดือนนี้เป็นเดือนที่ 3 ช่วยตัวเองก่อนมีประจำเดือน ก็มีเลือดไหลออกมาอีกแต่ไม่แน่ใจว่าใช่ประจำเดือนหรือเปล่า แต่ทุกครั้งไหลหลังจากช่วยตัวเองเสร็จประมาณ 1-2ชม อย่างนี้คือเป็นอันตรายมั้ยคะ หนูไม่รู้จะทำยังไม่กล้าบอกใครเลยค่ะ ไม่กล้าไปตรวจด้วยค่ะ ควรทำยังไงคะขออนุญาตขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ
จากที่คุณบอกมา หนูอายุ 17 ปีและหลังจากช่วยตัวเองมีเลือดปนเมือกใสไหลออกมาประมาณ 1-3 วัน พร้อมกับอาการปวดท้องน้อยเข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถเกิดจากหลายสาเหตุค่ะ โดยสาเหตุที่เป็นไปได้รวมถึง:
- การระคายเคืองหรือบาดเจ็บเล็กน้อยของเนื้อเยื่อภายในช่องคลอด เนื่องจากการช่วยตัวเองที่อาจจะเล่นแรงเกินไป
- การติดเชื้อในช่องคลอดหรือมดลูก
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับวงจรประจำเดือน
หากมีเลือดปนเมือกเพียงเล็กน้อยและหายไปภายในไม่กี่วัน อาจเป็นสัญญาณว่าไม่ได้มีปัญหาที่ร้ายแรงค่ะ แต่ถ้ามีอาการดังกล่าวบ่อยครั้งหรือมีอาการอื่นร่วมเช่นปวดท้องรุนแรง หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบและรักษานะคะ
เนื่องจากคุณยังรู้สึกไม่สบายใจและกังวล ขอแนะนำให้หาวิธีเข้าถึงแพทย์หากสามารถทำได้โดยไม่ต้องกลัวการอาย เพราะการพูดคุยกับมืออาชีพจะช่วยให้ได้รับคำปรึกษาและการรักษาที่ดีที่สุดค่ะ ถ้าไม่สะดวกพบแพทย์ในทันที ลองหาผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้เพื่อขอคำปรึกษาเบื้องต้นนะคะ