อาการเจ็บหน้าอกจากการใช้ยา dicloxacillin: ควรตรวจเพิ่มเติมไหม?

เป็นตากุ้งยิงหมอให้ยาdicloxaทาน4เม็ด/วันค่ะ 3เม็ดหลัฃมื้ออาหาร+1เม็ดก่อนนอน วันนั้นทานข้าวเย็นช่วง1ทุ่ม กินยาก่อนนอนช่วง5ทุ่มสักพักเข้านอนค่ะ ตื่นมาอีกทีเที่ยงคืนครึ่งเพราะแสบคอ แสบหน้าอกมากๆ จุกที่คอและหน้าอกด้วย พยายามกลืนน้ำลาย+ทานน้ำก็ไม่ช่วยบรรเทาอาการ คลื่นไส้เล็กน้อย สุดท้ายแล้วพอเช้ามาอาการดีขึ้นไม่แสบแต่อาการจุกยังมีอยู่ตลอดแต่ไม่แรงเท่า วันนี้เป็นวันที่3ทุกครั้งที่กินข้าวจะมีอาการเสียดๆที่หน้าอกค่ะ ถ้าให้บรรยายคือรู้สึกเหมือนมีมีดปักเข้าออกที่อกทุกครั้งที่กลืนอาหาร(น้ำก็เป็นค่ะ) ลองถามนักศึกษาแพทย์คร่าวๆเขาบอกว่าอาจจะเป็นกรดไหลย้อน แต่ไม่มีอาการเรอเปรี้ยวหรือแสบคออีกตั้งแต่วันนั้นค่ะ อยากทราบว่าร้ายแรงหรือควรไปโรงพยาบาลตรวจมั้ยคะ

กรณีนี้น่าสนใจมากค่ะ เนื่องจากอาการแสบคอ จุกหน้าอก และคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นหลังจากทานยา dicloxacillin ดังกล่าว ร่วมกับอาหาร อาจมีหลายสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกเจ็บหน้าอกเมื่อกลืนอาหารและเครื่องดื่มค่ะ

อาการเหล่านี้อาจเกิดจาก:

  • ยากระตุ้นกระเพาะอาหาร: ยา dicloxacillin อาจทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองหรือมีการอักเสบที่หลอดอาหาร หรือรีพลักซ์ (กรดไหลย้อน) แม้จะไม่มีอาการเรอเปรี้ยว แต่อาการเสียดหน้าอกก็เป็นไปได้ค่ะ
  • การทานยาในช่วงจำเพาะ: การทานยาก่อนนอนเร็วเกินไปและนอนทันที อาจทำให้ยาไม่ผ่านออกจากกระเพาะอาหารได้รวดเร็วพอ เป็นเหตุให้เกิดการระคายเคืองที่หลอดอาหารได้
  • สาเหตุอื่นๆ: ถ้าคุณมีประวัติของกรดไหลย้อน, การอักเสบในกระเพาะอาหาร, หรือภาวะที่มีความอ่อนแอที่หลอดอาหาร อาการที่คุณกล่าวมาอาจเกิดจากสถานการณ์เหล่านี้ได้ค่ะ

ข้อแนะนำ:

  • ปฏิบัติตามกำหนดการทานยาอย่างรอบคอบ: ให้อาหารครบถ้วน และอยู่ในท่าตรงอย่างน้อย 30 นาทีหลังทานยา
  • การทานยาอื่นๆเพื่อบรรเทาอาการ: เช่น ยาลดกรด, ยาเสริมที่ช่วยป้องกันการระคายเคืองหลอดอาหาร
  • พบแพทย์: สำคัญที่สุดเลยคือคุณควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบและวินิจฉัยโรคอย่างละเอียดค่ะ หากอาการยังคงอยู่ หรือมีอาการอื่นๆเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์เพื่ออัพเดทและปรับปรุงยาที่ใช้ค่ะ

จะดียิ่งกว่าหากได้รับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการวินิจฉัยและรักษาโรคดังกล่าวอย่างละเอียดค่ะ