ผลข้างเคียงในการปรับเปลี่ยนยาสำหรับคนไข้ที่เคยมีภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง

สุขภาพจิต
, , , ,
1

ยา deANXIT TABLET (Flupentixol+Melitracen) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหาร, ยา Topamax Tablet (50MG) (topiramate) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า-เย็น, และยา ENCEPHABOL TABLET (100MG) (Pyritinol) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า นี่คือยาที่คนไข้ทานอยู่เป็นประจำ จากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมาวันนี้ได้ไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง คุณหมอได้ปรับเปลี่ยนยาให้เป็น AMITRIPTYLINE 10 MG (C/L3) ก วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน, ยา TOPIRAMATE 50MG (TOPAMAX) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า-เย็น พื้นเพอาการคนไข้เคยเป็นเส้นเลือดตีบในสมอง โดยมีอาการแก้มกระตุก ปากเบี้ยวนิดนึง และพูดไม่ชัด คนไข้ได้รับการรักษาจากการให้ยาทาน โดยไม่ได้ผ่าตัดใด ๆ จนอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ 100% คือพูดได้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เหมือนลิ้นไก่สั้นนิดนึงและช้าลง แต่ยังคงฟังได้รู้เรื่องพอสมควร โดยรวมถือว่าดีกว่าตอนเป็นครั้งแรกเยอะมาก จะเรียนถามทีมแพทย์ของท่านว่า จากการปรับเปลี่ยนยา จะมีผลข้างเคียงในทางบวก ลบ อย่างไรบ้าง อ้อ คนไข้ได้ทานยาต่อเนื่องมาประมาณ 10 ปี เหตุผลในการย้ายโรงพยาบาล 1. เรื่องการเดินทาง 2. เรื่องการเบิกจ่ายค่ายา ขอขอบพระคุณทีมแพทย์ไว้ล่วงหน้าในการบริการให้คำปรึกษามา ณ ที่นี้ด้วยครับ

2

การปรับเปลี่ยนยาในการรักษาภาวะเส้นเลือดตีบในสมองเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด ในกรณีของการเปลี่ยนจากยา deANXIT และ ENCEPHABOL มาเป็น AMITRIPTYLINE มีข้อดีและข้อดึงดูดในแต่ละกลุ่มยา โดยแยกแยะได้ดังนี้:

  1. ยา AMITRIPTYLINE เป็นยาที่มักใช้ในการรักษาอาการซึมเศร้าและบางใช้ในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งสามารถช่วยลดความกังวลและความเครียดของผู้ป่วยที่ได้ยังต้องการพักผ่อนที่ดีขึ้น ระวังผลข้างเคียเช่น ปากแห้ง ท้องผูก ง่วงนอน หรืออาจมีอาการหัวใจเต้นเร็ว

  2. ยา TOPIRAMATE (TOPAMAX) จะคงอยู่เช่นเดิม ซึ่งหมายความว่าคนไข้ควรรับประทานตามแพทย์สั่งเพื่อควบคุมอาการที่เกี่ยวกับสมอง อย่างไรก็ตาม ยานี้อาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการซึมเศร้า อาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือสมาธิสั้น แต่ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมีการตอบสนองดี

โดยรวมแล้ว การปรับเปลี่ยนยาควรมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หากพบอาการคล้ายคลึงกับผลข้างเคียงที่กล่าวถึง ควรรีบปรึกษาแพทย์ และสิ่งที่สำคัญคือการรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุดครับ