การไหลของเลือดหลังจากใช้ยาเหน็บเชื้อราในช่องคลอด: เป็นเรื่องปกติไหม?

ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ใช้ยาเหน็บเชื้อราแล้วมีเลือดไหลกะปริบกะปรอยมา 3 วันแล้วค่ะ เนืองจากดิฉันมีตกขาวสีเหลืองเป็นก้อนออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีอาการคันหรือแสบ จึงตัดสินใจซื้อยามาลองสอดเองดู คืนวันที่ 29 ก.ย. ดิฉันใช้ยาเหน็บเชื้อราในช่องคลอด พร้อมกับทานยา funa (fluconazole 200mg) ไปเม็ดนึงด้วยค่ะ ตอนสอดยาสอดไปได้แค่หนึ่งข้อนิ้วกลางก็สอดต่อไม่ไหวเพราะเจ็บมาก วันต่อมา (30 ก.ย.) ก็มีคราบสีขาวธรรมดา (คาดว่าเป็นยาที่สอดไป) ไหลออกจากช่องคลอด แต่วันรุ่งขึ้น (1 ต.ค.) คราบยาสีขาวที่ไหลออกมามีเลือดปนอยู่ด้วย ในเลือดมีแผ่นบางๆ ลักษณะคล้ายเนื้อเยื่อบางอย่างหลุดออกมาด้วย วันที่ 2 ต.ค. ยังคงมีเลือดไหลออกมากะปริบกะปรอย ที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ไม่มีอาการคัน เจ็บ ปวดท้อง หรือปัสสาวะติดขัดเลยค่ะ อยากทราบว่า เลือดที่ไหลออกมานั้นเป็นเรื่องปกติหรือไม่คะ? เป็นผลข้างเคียงจากยา หรือว่าเป็นเลือดที่ออกมาเพราะเยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาด? ดิฉันต้องไปโรงพยาบาลไหมคะ?

การที่มีเลือดไหลกะปริบกะปรอยหลังจากใช้ยาเหน็บเชื้อราในช่องคลอดพร้อมกับทานยา Fluconazole เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายๆ สาเหตุค่ะ

  1. เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาด: เมื่อคุณใช้ยาเหน็บ ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปในช่องคลอด หากคุณยังเป็นพรหมจรรย์ การที่เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดก็เป็นไปได้ โดยเฉพาะหากคุณรู้สึกเจ็บมากเมื่อทำการสอดยาเข้าไป

  2. แพ้หรือมีปฏิกิริยากับยา: การที่ใช้ยาเหน็บเข้าไปในช่องคลอด อาจทำให้ผนังช่องคลอดเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ ทำให้เกิดอาการเลือดไหลออกมาพร้อมกับคราบยาที่สอดเข้าไป

  3. การติดเชื้อ: แม้ว่าคุณจะไม่มีอาการคัน ปวด หรือแสบ มีความเป็นไปได้ว่าอาการตกขาวที่มีสีเหลืองของคุณ อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังและตรวจเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อเพิ่มเติม

ควรไปพบแพทย์หรือไม่?
การไปพบแพทย์เป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ เหมาะสมที่สุดคือให้แพทย์ทำการตรวจร่างกายเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อหรือการอักเสบในช่องคลอด หรือภาวะอื่นๆ ที่ควรต้องระมัดระวังเพิ่มเติม หากเลือดไหลยังคงมีอยู่เป็นเวลานานหรือมีอาการอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น ปวดท้องหรือมีการติดเชื้อปัสสาวะ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วด้วยค่ะ