เป็นตุ่มที่แคมซ้าย 1 เม็ด ไม่มีหัว เป็นสีเดียวกับเนื้อ จับแล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดๆเป็นมา 2-3 วันแล้วค่ะ ช่วงแรกๆคันมากค่ะตอนแรกนึกว่าเป็นเพราะที่เราเกาละเป็นตุ่มธรรมดาเหมือนยุงกัดนึกว่าจะหายเอง พอผ่านมาสัก2วันตุ่มก็ไม่หายแต่ก็ไม่คันนะคะรู้สึกตุ่มจะใหญ่ขึ้นมานิดนึง คืออยากรู้ว่ามันคือตุ่มอะไร แล้วอันตรายมั้ยอะคะ แล้วต้องไปหาหมอด้านไหนคะ คือหนูพึ่งจะอายุ 17 เลยกล้าๆกลัวๆอะค่ะ ไม่รู้จะทำไงดี:sweat_smile:เลยอยากมาขอคำแนะนำหน่อยค่ะ:grin:
สิ่งแรกที่ต้องทำคือตรวจสอบลักษณะของตุ่มอย่างละเอียด เนื่องจากในบริเวณที่ยังไม่ผ่านการเจริญเติบโตเต็มที่ การเกิดตุ่มอาจมีสาเหตุมาจากหลายอย่าง เช่น
- สิว: เป็นไปได้ว่าตุ่มนี้คือสิวที่มีการอักเสบ ซึ่งอาจมาจากการที่มือเราไปสัมผัสบริเวณนั้นบ่อยๆ
- รูขุมขนอักเสบ (Folliculitis): เกิดจากการติดเชื้อภายในรูขุมขน ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการเสียดสีหรือการโกนขน
- ถุงไขมัน (Sebaceous Cyst): เป็นถุงน้ำที่เกิดจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง
การที่ตุ่มเจ็บและใหญ่ขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดมากขึ้นค่ะ ควรไปพบ สูตินรีแพทย์ (Gynecologist) หรือ แพทย์ผิวหนัง (Dermatologist) ก่อน โดยอธิบายอาการให้แพทย์ฟังอย่างละเอียดเผื่อจะได้การทารักษาที่เหมาะสม
ถึงแม้จะกังวลในการไปพบแพทย์ อย่าลืมว่าการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญค่ะ การพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันการเกิดอาการที่เลวร้ายกว่าครั้งแรกได้ค่ะ ไม่ต้องกลัวไปนะคะ แพทย์จะให้คำแนะนำและการดูแลตามความเหมาะสมค่ะ