สวัสดีครับคุณหมอ ผมมีอาการชาใบหน้าข้างขวา บริเวณ กระพุ้งแก้ม กับโหนกแก้ม (ขากรรไกด้วย แต่ไม่แน่ใจ) ก่อนมีอาการชาผมนั่งขัดตะหมาด แล้วเอียงตัวลงไปทางด้านขวา พอเอียงตัวตรงกลับมาแล้วรู้สึกเหมือนจะวูบๆ เหมือนหน้ามืด หัวซีดขวารู้สึกหน่วงๆ แล้วก็ชาบริเวณแก้มเลยครับ อาการชาแบบ แปรบๆ จี๊ดๆ ตึงๆ บางทีอาการชาเหมือนจะดีขึ้นแต่ยังรู้สึกชาอยู่ แต่ไม่ได้ชาจนไม่รู้สึกอะไรเลย ก้มหน้าลงไม่ได้จะรู้สึกเกร็งหน้า และชาๆ แต่ตอนนอนลงจะไม่รู้สึกชา บางทีรู้สึกชารามไปถึงหู เป็นมาอาทิตย์กว่าๆ แล้วยังไม่หายไปเลยครับ เกิดจากสาเหตุอะไรครับ
อาการชาในบริเวณใบหน้าและขากรรไกรด้านขวาที่คุณอธิบายมา อาจเป็นไปได้จากหลายสาเหตุ บางทีอาการชาแบบนี้เกิดจากปัญหาเกี่ยวกับระบบเส้นประสาท เช่น Postural Compression ซึ่งคือเมื่อคุณเอียงตัวไปด้านข้างเส้นประสาทบางเส้นอาจถูกกดหรือถูกบีบ ซึ่งจะเกิดอาการชาตามมาในพื้นที่ที่เส้นประสาทนั้นเลี้ยง อาการชาชนิดนี้มักจะเกิดขึ้นชั่วคราวและดีขึ้นเมื่อคุณเปลี่ยนท่าหรือให้เส้นประสาทสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่หากอาการยังคงอยู่และเพิ่มความรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าไม่มีปัญหาที่ร้ายแรงหรือไม่ เช่น ภาวะ Bell’s Palsy หรือการอักเสบของเส้นประสาทใบหน้า เป็นต้นนะคะ
นอกจากนี้ อาการหน้ามืดและวูบๆ ที่คุณรู้สึกเมื่อลุกขึ้นมาอาจเกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนของเลือดที่ลดลงชั่วขณะ เมื่อคุณเปลี่ยนท่าจากนั่งขัดตะหมาดไปเป็นการนั่งตรง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีในพื้นที่ของใบหน้าและศีรษะอย่างเพียงพอ การดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนท่าทางอย่างกระทันหันสามารถช่วยบรรเทาอาการนี้ได้ค่ะ
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญก็คือการเฝ้าระวังอาการเพิ่มเติม เช่น มีการเปลี่ยนแปลงในระดับการมองเห็น, ความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้น, หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการพูด หรือการเคลื่อนไหว ควรติดต่อแพทย์ทันทียิ่งไปกว่านั้น ให้ความสำคัญกับการตรวจเลือดและการตรวจเชิงลึกเพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่ตรงจุด ค่ะ