คุณหมอครับคือผมมีอะไรกับแฟนทางทวารหนักและมีเลือดไหลออกมาไม่เยอะมากครับแต่ผมใส่ถุงยางอนามัยแล้วมีอุจจาระติดออกมาด้วยครับจะเป็นอะไรไหมครับ
สวัสดีค่ะ สำหรับคำถามนี้ การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักแล้วพบเลือดไหลหรือมีอุจจาระติดถุงยางอนามัยออกมานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ แต่เราควรสังเกตและให้ความสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นค่ะ
1. สาเหตุของเลือดไหลทางทวารหนัก
เลือดที่ออกมาหลังการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักอาจเกิดจากสาเหตุดังนี้:
- การบาดเจ็บของเยื่อบุทวารหนัก: เนื่องจากทวารหนักไม่มีสารหล่อลื่นตามธรรมชาติ หากไม่มีการใช้สารหล่อลื่นเพียงพออาจทำให้เกิดการเสียดสีและนำไปสู่การบาดเจ็บ
- ริดสีดวงทวาร: ผู้ที่มีภาวะริดสีดวงอาจมีเลือดออกเมื่อเกิดแรงดันหรือการเสียดสีระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
- แผลหรือรอยฉีกขาดเล็กๆ (Anal Fissure): การสอดใส่ที่ไม่ระวังอาจทำให้เกิดรอยฉีกขาดเล็กๆ ที่บริเวณทวารหนัก
2. การที่มีอุจจาระติดถุงยาง
การมีอุจจาระติดถุงยางไม่ใช่สิ่งผิดปกติในทางการแพทย์ แต่สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าการล้างลำไส้ก่อนการมีเพศสัมพันธ์อาจไม่ได้มีการทำความสะอาดเท่าที่ควรในครั้งนี้ค่ะ อย่างไรก็ดี ไม่จำเป็นที่จะต้องล้างลำไส้ทุกครั้ง ถ้าคุณและคู่รักพึงพอใจกับการดูแลในแบบที่ทำอยู่
3. ข้อควรระวังและการดูแลตัวเอง
หากคุณหรือแฟนพบว่ามีแผลหรือเลือดออกบ่อยครั้ง หรือมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดมาก ติดเชื้อ หรือตกขาวผิดปกติ ควรตรวจสอบเรื่องสุขอนามัยและดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้นค่ะ:
- ทำความสะอาดลำไส้: หากต้องการลดปัญหาอุจจาระติด สามารถใช้น้ำยาสวนล้างลำไส้เบาๆ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสวนล้างบ่อยเกินไป เพราะอาจทำลายสมดุลของระบบลำไส้
- ใช้สารหล่อลื่นที่อ่อนโยน: ช่วยลดความเสียดสี หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ
- งดการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราว: หากยังมีเลือดไหลเล็กน้อย ควรรอให้แผลหายดีก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ใส่ถุงยางอนามัย: การที่คุณใส่ถุงยางอยู่แล้วนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เนื่องจากช่วยป้องกันการติดเชื้อ เช่น HIV และ STD อื่นๆ
4. ควรไปพบแพทย์หรือไม่?
หากคุณยังคงมีเลือดไหล ไม่มีแผลหาย หรือพบสัญญาณติดเชื้อ เช่น มีหนอง มีไข้ เจ็บมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ตรวจสอบและรักษาให้เหมาะสมค่ะ
สุดท้ายนี้ อย่าเขินอายที่จะพูดคุยกับแพทย์เรื่องปัญหาเหล่านี้นะคะ สุขภาพของคุณสำคัญมาก และแพทย์สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดในกรณีเฉพาะของคุณได้ค่ะ