วิธีรักษาผิวแพ้ง่ายน้ำเหลืองไม่ดีและรับมือกับแผลลามจากยุงกัด

เป็นคนผิวแพ้ง่ายน้ำเหลืองไม่ดีมาแต่เกิดค่ะ
ยุงกัดก็จะเป็นผื่นหนองแล้วพี่สาวเลี้ยงหมาซึ่งมันแก่มากแล้วมันมาเลียแผลที่ยุงกัดค่ะจนทุกวันนี้แผลยุงกัดมันลามมาถึงหน้าแข้งใช้ทั้งยากินยาทาก็ไม่หายค่ะ
ยิ่งพออากาศเปลี่ยนก็จะยิ่งคันไปโรงพยาบาลเค้าก็ให้แต่ยาแก้แพ้กับครีมทามามันก็ไม่หายค่ะ
ต้องทำยังไงดีคะ

จากที่คุณเล่ามา คุณมีปัญหาเรื่องผิวแพ้ง่าย น้ำเหลืองไม่ดี และมีอาการลุกลามจากแผลยุงกัด รวมถึงมีโอกาสเสี่ยงการติดเชื้อจากการที่สัตว์เลี้ยงเลียแผลเพิ่มเติม ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นปัญหาสุขภาพผิวที่ต้องการการดูแลอย่างจริงจังค่ะ ขออนุญาตแนะนำการจัดการดังนี้:


1. การดูแลแผลและความสะอาด:

  • ทำความสะอาดบริเวณแผล: ควรหมั่นล้างทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือหรือสบู่อ่อน ๆ รวมถึงฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ (หากไม่มีอาการแสบมาก) และปิดแผลด้วยพลาสเตอร์หรือผ้าพันแผลสะอาดค่ะ
  • หลีกเลี่ยงการให้สัตว์เลี้ยงสัมผัส: เพราะน้ำลายของสัตว์อาจมีแบคทีเรียหรือเชื้อโรคที่สามารถเข้าสู่แผลและทำให้อาการแย่ลงค่ะ
  • ดูแลสภาพแวดล้อม: พยายามให้อยู่ในพื้นที่สะอาด ไม่มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้แผลติดเชื้อเพิ่มค่ะ

2. การเปลี่ยนวิธีรักษา:

  • ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง: หากยาที่โรงพยาบาลปัจจุบันยังใช้ไม่ได้ผล คุณควรลองปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังเพื่อประเมินสาเหตุที่แท้จริง โดยแพทย์อาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจน้ำเหลือง การตัดชิ้นเนื้อผิวหนังเพื่อตรวจค่ะ
  • เปลี่ยนแปลงยา: บางทีคุณอาจต้องใช้ยาต้านการอักเสบที่แข็งแรงกว่า หรือยากลุ่ม corticosteroid หรือยาที่มีส่วนประกอบช่วยลดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันค่ะ
  • ยาต้านจุลชีพ: หากมีการติดเชื้อที่แผลเกิดขึ้นเรื้อรัง คุณอาจต้องการยาปฏิชีวนะชนิดทา หรือรับประทานที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมแบคทีเรียค่ะ

3. ปรับวิถีชีวิตและสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน

  • อาหารการกิน: อาหารที่มีวิตามิน C, D และ Zinc มีประโยชน์ในการช่วยฟื้นฟูแผลและเสริมภูมิคุ้มกันค่ะ เช่น ผลไม้สด (ส้ม, ฝรั่ง), ผักใบเขียว, เนื้อปลา หรือไข่ค่ะ
  • หลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นอาการคัน: เช่น การเกาแผล การอยู่ในที่มีฝุ่นหรืออากาศแห้ง รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมค่ะ
  • บำรุงผิว: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เช่น โลชั่นที่ไม่มีสารระคายเคือง หรือมีส่วนประกอบที่ช่วยลดการอักเสบค่ะ

การรักษาปัญหาผิวอย่างนี้อาจใช้เวลาค่ะ ดังนั้นคุณควรดูแลอย่างต่อเนื่อง และหากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีแผลลุกลาม ควรรีบกลับไปพบแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาตรงจุดค่ะ หากมีเรื่องเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้เสมอค่ะ!