ขอสอบถามหน่อยค่ะ พอดีไปฉีดยาคุมแบบ3เดือนมา หลังฉีดมาได้เกือบๆ1เดือน แล้วมีเพศสัมพันธ์ทำไมรู้เจ็บที่ช่องคลอดและมีเลือดไหลออกเล็กน้อยค่ะ อยากสอบถามว่าเป็นอาการปกติหรือผิดปกติไหมค่ะ ถ้าปกติมันจะหายนานไหมค่ะ หรือต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ
สวัสดีค่ะ สำหรับกรณีของคุณที่เกิดความเจ็บในช่องคลอดและมีเลือดไหลเล็กน้อยหลังมีเพศสัมพันธ์หลังจากฉีดยาคุมแบบ 3 เดือนมาได้ประมาณ 1 เดือน มีหลายสาเหตุที่ควรพิจารณาค่ะ:
-
ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดแบบฉีด
ยาคุมกำเนิดชนิดฉีดที่มีฮอร์โมนสูงอาจทำให้อาการเปลี่ยนแปลงในร่างกายเกิดขึ้น เช่น ช่องคลอดแห้งหรือเยื่อบุบางลง นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้รู้สึกเจ็บและมีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ค่ะ อาการนี้ถือว่าพบบ่อยสำหรับคนที่เริ่มใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉีดเป็นครั้งแรกค่ะ -
การมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
การเจ็บช่องคลอดอาจเกิดจากแรงกระแทกหรือการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลและเลือดออกได้เล็กน้อยค่ะ หากคุณรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์หรือเลือดออกไม่หยุด อาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหาที่เยื่อบุช่องคลอดหรือเนื้อเยื่อค่ะ จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน -
ภาวะอื่นๆ เช่น การติดเชื้อหรือปัญหาเกี่ยวกับมดลูก
หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีเลือดไหลจำนวนมาก อาจมีภาวะอื่นๆ เช่น การติดเชื้อที่ช่องคลอดหรือปัญหาเกี่ยวกับมดลูก เช่น พังผืดในโพรงมดลูก หรือปากมดลูกอักเสบค่ะ
คำแนะนำ:
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ยังรู้เจ็บอยู่ และใช้สารหล่อลื่นเมื่อมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
- หากเลือดไม่หยุดไหลหรือเจ็บอย่างมาก ควรไปพบแพทย์ตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ
- ถ้าอาการเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด อาการมักจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2-6 เดือนหลังจากร่างกายปรับตัวค่ะ
ควรสังเกตว่าหากมีอาการผิดปกติอย่างอื่น เช่น เลือดไหลออกมาเหนียว หรือมีกลิ่นผิดปกติ รวมถึงเจ็บท้องน้อย ควรปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ หวังว่าคำแนะนำนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์มากขึ้นนะคะ