ปวดหัวกินยาแล้วไม่หายควรทำอย่างไร

[/spoiler]ปวดหัวกินยาแล้วไม่หายทำไงดีครับ

หากปวดหัวแล้วกินยาแก้ปวดแต่ยังไม่หาย อาจเกิดจากหลายสาเหตุค่ะ และมีสิ่งที่ควรพิจารณาและทำเพิ่มเติมเพื่อช่วยบรรเทาอาการ ดังนี้:

  1. สาเหตุที่เป็นไปได้:

    • ปวดหัวจากความเครียดหรือการทำงานหนัก: หากพักผ่อนไม่เพียงพอหรือมีความกังวล อาจทำให้อาการปวดยังคงอยู่
    • ไมเกรน: หากมีอาการปวดรุนแรงและมีอาการร่วมอย่างคลื่นไส้หรือไวต่อแสงและเสียง อาการนี้อาจเป็นไมเกรน
    • ขาดน้ำ: ภาวะขาดน้ำอาจทำให้เกิดอาการปวดหัว แนะนำดื่มน้ำให้เพียงพอ
    • ความดันเลือดผิดปกติ: ความดันสูงหรือต่ำเกินไป อาจนำไปสู่อาการปวดหัวได้
    • ไซนัสอักเสบ: ปวดบริเวณใบหน้าและศีรษะร่วมกับอาการคัดจมูกหรือเจ็บเมื่อกดไซนัส
  2. วิธีการแก้ไขเพิ่มเติม:

    • พักผ่อนในสถานที่เงียบและไม่มีแสงจ้า
    • จิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
    • ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณหน้าผากหรือท้ายทอย
    • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น เสียงดัง ความร้อนจัด หรือกลิ่นแรง
    • ลองออกกำลังกายเบา ๆ หรือนวดบริเวณที่ปวด
    • หากเป็นไมเกรน ควรหายาที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ เช่นยากลุ่ม triptan
  3. เมื่อควรพบแพทย์:

    • หากปวดหัวรุนแรงแม้กินยาหรือพักผ่อนแล้ว
    • มีอาการเพิ่มเติม เช่น อาเจียนบ่อย ซึมลง หรือมีไข้สูง
    • ปวดหัวพร้อมอาการชาหรืออ่อนแรงในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
    • อาการปวดหัวเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่เคยมีประสบการณ์ลักษณะเช่นนี้มาก่อน

หากอาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมค่ะ