หลังจากแท้งและมีเลือดออกกะปิบกะปอยเป็นเวลา1เดือน และ ปวดท้องรุนแรงเหมือนปะจำเดือนอาหารนี้อันตรายไหม และ เกิดขอ้นจากสาเหตุอะไร
อาการของคุณที่มีเลือดออกกะปริบกะปรอยนานถึง 1 เดือนหลังจากแท้งร่วมกับอาการปวดท้องรุนแรง คล้ายกับการปวดประจำเดือน อาจถือเป็นสัญญาณที่ควรให้ความสนใจ เพราะอาการดังกล่าวอาจมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับภาวะทางสุขภาพต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ:
-
เศษเนื้อเยื่อยังไม่ถูกขับออกหมด (Retained Products of Conception)
ในบางกรณี หลังจากแท้ง เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกอาจยังคงอยู่โดยไม่ถูกขับออกจนหมด ทำให้เกิดการตกค้างและอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ ซึ่งมักมาพร้อมกับอาการเลือดออกนาน ๆ และปวดท้องอย่างรุนแรงค่ะ -
การติดเชื้อในโพรงมดลูกหรืออวัยวะในอุ้งเชิงกราน (Endometritis หรือ Pelvic Infection)
การติดเชื้อในโพรงมดลูกหรือบริเวณอุ้งเชิงกรานมักเกิดจากการแท้งที่ไม่สมบูรณ์ หรือการขาดการดูแลหลังแท้ง ซึ่งอาการอาจรวมถึงไข้สูง มีกลิ่นเหม็นจากช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรงได้ค่ะ -
ฮอร์โมนที่ยังไม่ปรับตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
หลังจากแท้ง ร่างกายต้องใช้เวลาในการปรับฮอร์โมนให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งอาจทำให้เลือดออกผิดปกติและปวดคล้ายประจำเดือนได้ในช่วงแรกค่ะ
ข้อแนะนำเพิ่มเติม:
- หากยังมีเลือดออกไม่หยุดมานาน 1 เดือน หรือลักษณะเลือดออกมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีกลิ่นเหม็น หรือมีเลือดออกมากผิดปกติ คุณควรรีบไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการค่ะ
- แพทย์อาจทำการอัลตราซาวด์เพื่อตรวจดูว่าเนื้อเยื่อที่ตกค้างอยู่หรือไม่ และพิจารณาการขูดมดลูกหรือตรวจเพิ่มเติมในกรณีที่สงสัยการติดเชื้อค่ะ
- ถ้าคุณรู้สึกปวดท้องรุนแรงตลอดเวลา หรือมีไข้ร่วมด้วย ให้รีบไปโรงพยาบาลทันทีค่ะ เพราะอาการนี้อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อร้ายแรง (Sepsis) ซึ่งต้องการการรักษาเร่งด่วนค่ะ
การดูแลสุขภาพหลังแท้งถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน การติดตามอาการ หรือการปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเฉพาะค่ะ หากคุณพบอาการผิดปกติ อย่าลังเลที่จะติดต่อแพทย์โดยเร็วค่ะ