สวัสดีค่ะ พึ่งฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าเข็มสุดท้ายวันที่27 พฤษภาคม ตอน5โมงเย็น แต่ตอน5ทุ่ม วันที่27 พฤษภาคม โดนแมวจรกัด เลือดออกนิดหน่อย ไม่ได้โดนกัดลึก เลยโทรไปถามศูนย์บริการ เขาบอกไม่ต้องฉีด แต่อาจจะต้องกินยากฆ่าเชื้อ เลยไปซื้อยาฆ่าเชื้อมากินค่ะ อย่างนี้ถือว่าปลอดภัยยังคะ หรือต้องไปฉีดกระตุ้นอีกไหมคะ
สอบถามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะ หลังจากที่คุณฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าเข็มสุดท้ายไปในวันที่ 27 พฤษภาคม และโดนแมวจรกัดในช่วงเวลา 5 ทุ่มวันเดียวกัน คำถามว่า “ปลอดภัยหรือไม่” หรือ “ต้องฉีดกระตุ้นเพิ่มไหม” สามารถพิจารณาตามข้อมูลต่อไปนี้ค่ะ:
-
สถานะการป้องกันของวัคซีนที่ได้รับ:
- วัคซีนพิษสุนัขบ้าเข็มสุดท้ายที่คุณได้รับเพิ่งฉีดไปในวันเดียวกัน ถือว่าร่างกายมีภูมิคุ้มกันจากโรคพิษสุนัขบ้าระดับที่สูงพอที่จะป้องกันความเสี่ยงจากการถูกสัตว์กัดได้ในช่วงเวลาดังกล่าวค่ะ
- การฉีดครบตามกำหนดทำให้ภูมิคุ้มกันต่อโรคพิษสุนัขบ้ามีประสิทธิภาพ ข้อมูลจากศูนย์บริการที่คุณโทรปรึกษายืนยันว่าการฉีดกระตุ้นอาจไม่จำเป็นสำหรับกรณีนี้ ซึ่งข้อมูลนี้น่าเชื่อถือค่ะ
-
การดูแลแผลและการพิจารณายา:
- คุณได้รับคำแนะนำในการรับยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียจากการโดนสัตว์กัด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำได้ทันทีเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อค่ะ
- ควรทำความสะอาดแผลและเฝ้าสังเกตแผลโดยดูว่ามีอาการอักเสบ บวม หรือเป็นหนองหรือไม่ หากพบอาการดังกล่าวควรรีบกลับไปปรึกษาแพทย์ค่ะ
-
เฝ้าระวังสัตว์ที่กัด:
- ถ้าเป็นแมวจรที่ไม่สามารถติดตามหรือเฝ้าดูได้ แนะนำให้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหรือมีผู้ใกล้ชิดในบริเวณเดียวกันเฝ้าระวังสัตว์ว่ามีอาการผิดปกติ (เช่น ก้าวร้าว, น้ำลายยืด, ไม่สบาย) หรือไม่ค่ะ
สรุป: โดยรวมคุณอาจไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มเติม เนื่องจากคุณเพิ่งฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายไปในเวลาใกล้เคียงกัน แต่อย่างไรก็ตาม ควรติดตามอาการของแผลและเฝ้าสังเกตสัตว์ที่กัดอย่างละเอียด หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรืออาการผิดปกติเกิดขึ้นควรปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ