เสียงเปลี่ยนโดยไม่มีอาการอื่นเกี่ยวข้องกับพิษสุนัขบ้าหรือไม่?

พอดีเจาะเลือดตรวจน้ำตาลตอนเที่ยงๆ ที่ปลายนิ้ว แล้วตอนหนึ่งทุ่มได้มีการสัมผัสอาหารแมว ได้ฉีดวัคซีนกระตุ้นสองเข็มแล้ว เข็มสุดท้ายวัน 22/05/68 มีอาการเสียงเปลี่ยน เสียงแหบ ไม่เจ็บคอ กินข้าวกินน้ำปกติ อาการดังกล่าวติดพิษสุนัขบ้ามั้ยคะ

จากข้อมูลที่คุณให้มาเกี่ยวกับอาการเสียงเปลี่ยน แต่ไม่มีอาการอื่นร่วม เช่น การกลืนน้ำหรืออาหารลำบาก กินน้ำและรับประทานอาหารได้ตามปกติ อาการนี้ไม่น่ามีความสัมพันธ์กับโรคพิษสุนัขบ้าค่ะ มาแบ่งข้อมูลชัดเจนออกเป็นข้อเพื่อทำความเข้าใจต่อสุขภาพของคุณ:

  1. อาการเสียงเปลี่ยนในกรณีพิษสุนัขบ้า

    • อาการเสียงเปลี่ยนในโรคพิษสุนัขบ้านั้นจะสัมพันธ์กับการกล้ามเนื้อทางเดินหายใจและการกลืนได้รับผลกระทบ ซึ่งจะเกิดในระยะท้ายของโรคค่ะ
    • อย่างไรก็ตาม อาการอื่นที่บ่งชี้และชัดเจน ได้แก่ กลัวน้ำ กลัวลม เจ็บปวดหรือชาบริเวณแผลที่สัมผัสเชื้อ อาการชักและผิดปกติทางพฤติกรรม ไม่ใช่เพียงเสียงเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวค่ะ
  2. เสียงเปลี่ยนจากสาเหตุอื่น

    • ในกรณีนี้อาจมีเหตุอื่นที่เป็นไปได้ ได้แก่
      • มีการอักเสบของกล่องเสียงจากการใช้เสียงมาก หรือสูดสารที่ระคายเคือง
      • การติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจ
      • โรคกรดไหลย้อนที่ไหลขึ้นมากระตุ้นกล่องเสียง
    • แม้ไม่มีไข้หรือเจ็บคอร่วม แต่อาจต้องเฝ้าสังเกตเพิ่มเติมค่ะ
  3. คำแนะนำเบื้องต้น

    • หากเสียงแหบหรือเปลี่ยนมากกว่า 2 สัปดาห์ หรือมีอาการอื่นที่ผิดปกติร่วม เช่น อาการเจ็บคอ ไข้ หรือกลืนลำบาก ควรปรึกษาแพทย์ค่ะ
    • หากไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์หรือการขึ้นแผลกับสัตว์ที่ติดเชื้อ ให้สันนิษฐานว่าอาการไม่น่ามีความเกี่ยวข้องกับพิษสุนัขบ้า แต่หากมีความกังวล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความสบายใจค่ะ

โดยรวม อาการเสียงเปลี่ยนในกรณีนี้ไม่น่ามีความสัมพันธ์กับโรคดังกล่าว แต่ควรดูแลสุขภาพด้วยการพักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงการใช้เสียงหนักจนกว่าจะดีขึ้นนะคะ

ตอนนี้อยู่ๆ มีอาการเสียงเปลี่ยน แต่กินน้ำกินข้าวได้ตามปกติ เป็นพิษสุนัขบ้ามั้ย

กรณีที่คุณมีอาการเสียงเปลี่ยน โดยที่ยังสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกตินั้น อาการนี้ยังไม่ใช่อาการเฉพาะเจาะจงที่บ่งบอกถึงโรคพิษสุนัขบ้าค่ะ แต่เพื่อความชัดเจน เรามาพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมกันค่ะ:

  1. อาการของโรคพิษสุนัขบ้า:

    • อาการในระยะต้นของพิษสุนัขบ้านั้นมักมีไข้ ปวดหัว เจ็บปวดหรือชาบริเวณที่ถูกกัดเป็นหลักค่ะ
    • เมื่อโรคเข้าสู่ระยะรุนแรง จะมีอาการเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น กลัวน้ำ กลัวลม กลืนลำบาก ชัก และมีการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม อาการเสียงเปลี่ยนอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่กล้ามเนื้อกล่องเสียงได้รับผลกระทบ แต่อาการกลืนน้ำหรืออาหารไม่ได้จะพบเป็นลักษณะสำคัญค่ะ
    • อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้มักไม่เกิดขึ้นห่างจากเหตุการณ์สัมผัสโรคเกินกว่าสัปดาห์หรือเดือนค่ะ
  2. สาเหตุที่อาจเกี่ยวข้องกับอาการเสียงเปลี่ยน:

    • การเสียงเปลี่ยนอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับพิษสุนัขบ้า เช่น การติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน (เช่น หวัดหรือไข้หวัดใหญ่)
    • อาจมีการอักเสบหรือระคายเคืองของกล่องเสียง เนื่องจากการใช้เสียงมากเกินไปหรือสูดเอาสารระคายเคืองเข้าไป
    • กรดไหลย้อน (GERD) ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เสียงเปลี่ยนได้ค่ะ
  3. คำแนะนำ:

    • หากคุณยังไม่มีประวัติถูกกัดหรือข่วนโดยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือไม่มีการสัมผัสทางตรงกับน้ำลายสัตว์ที่สงสัยติดเชื้อ อาการเสียงเปลี่ยนนั้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับพิษสุนัขบ้าค่ะ
    • แนะนำให้สังเกตอาการเพิ่มเติม หากมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไข้ เจ็บคอ หรือเสียงแหบเกินกว่า 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนค่ะ
    • หากยังคงกังวลเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้เกิดความสบายใจและตรวจยืนยันค่ะ

โดยภาพรวม อาการเสียงเปลี่ยนโดยที่คุณยังสามารถกินน้ำและอาหารได้ตามปกติ ไม่น่ามีความสัมพันธ์กับพิษสุนัขบ้า แต่หากมีประวัติสัมผัสหรือถูกสัตว์กัด/ข่วนในช่วงก่อนหน้า จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อทำการวินิจฉัยเพิ่มเติมค่ะ