ฉีคยาคุมแบบหนึ่งเดือนประจำเดือนไม่มาเลยค่ะพอหยุดฉีดยาคุม22เมษยนตนนี้มิถุยายนก้อยังไม่มาค่ะจะมีโอกาสท้องไม่ค่ะถ้ายากมีลูกก้อปล่อยเลยใช่มั๊ยค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณผู้ใช้, ปัญหาประจำเดือนไม่มาหลังจากหยุดฉีดยาคุมกำเนิดเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในผู้หญิงหลายคนค่ะ ไม่ต้องกังวลจนเกินไปค่ะ ลองมาดูประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้:
-
ผลกระทบของยาคุมกำเนิดต่อร่างกาย:
- ยาคุมแบบฉีดหนึ่งเดือน หรือแม้แต่แบบสามเดือน สามารถส่งผลทำให้ร่างกายต้องใช้เวลาปรับตัวหลังจากหยุดใช้ค่ะ เนื่องจากฮอร์โมนในยาคุมเหล่านี้อาจทำให้ระบบการตกไข่ชะลอตัวหรือไม่เป็นปกติในระยะเวลาหนึ่ง
- ผลที่ตามมาคือ ประจำเดือนอาจไม่มาเป็นเวลาหลายเดือน (บางครั้งอาจถึง 6 เดือน ถึง 1 ปี) แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีปัญหาด้านการเจริญพันธุ์เสมอไปค่ะ
-
โอกาสตั้งครรภ์:
- หากหยุดฉีดยาคุมแล้วปล่อยให้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน คุณมีโอกาสตั้งครรภ์ค่ะ แต่โอกาสครั้งแรกๆ อาจจะยังไม่สูง เนื่องจากฮอร์โมนยังคงปรับตัว
- หากคุณต้องการตั้งครรภ์จริงๆ ก็แนะนำให้ลองปล่อยตามธรรมชาติพร้อมดูแลสุขภาพร่างกาย พยายามมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันตกไข่ ซึ่งสามารถใช้อุปกรณ์ทดสอบการตกไข่ช่วยตรวจสอบได้ค่ะ
-
คำแนะนำ:
- หากคุณยังไม่แน่ใจว่าเกิดการตั้งครรภ์หรือไม่ สามารถตรวจสอบด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ได้เองที่บ้าน หรือเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ
- หากที่ผ่านมาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือพบปัญหาอื่นๆ เช่น ปวดท้องรุนแรง ให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาค่ะ
การดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารที่ดี ออกกำลังกายเบาๆ และลดความเครียด จะช่วยให้ระบบฮอร์โมนกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้นค่ะ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถถามมาได้เลยนะคะ!
จะตรวจไข่ตกช่วงวันที่เท่าไรค่ะ
ในกรณีที่ต้องการตรวจวันไข่ตก คุณสามารถประมาณช่วงเวลาได้โดยดูจาก “ความยาวรอบเดือน” ของตัวเองค่ะ ซึ่งโดยปกติไข่จะตกประมาณ 14 วันก่อนประจำเดือนรอบถัดไปจะมา นะคะ ตัวอย่างเช่น:
- ถ้ารอบเดือนปกติ 28 วัน: ไข่จะตกในราววันที่ 14 นับจากวันแรกของประจำเดือนค่ะ
- ถ้ารอบเดือนยาว 30 วัน: ไข่จะตกประมาณวันที่ 16 ค่ะ
- รอบเดือนไม่แน่นอน: แนะนำให้ใช้เครื่องทดสอบการตกไข่ (Ovulation Test Kit) เพื่อความแม่นยำค่ะ
วิธีการตรวจสอบไข่ตก
-
เครื่องทดสอบการตกไข่:
- ใช้ปัสสาวะทดสอบฮอร์โมน LH ซึ่งจะเพิ่มสูงขึ้นก่อนการตกไข่ประมาณ 24-36 ชั่วโมง
- เริ่มตรวจประมาณ 2-3 วันก่อนวันที่คาดว่าไข่จะตก (ตามรอบเดือนปกติของคุณ)
-
ตรวจจากมูกปากมดลูก:
- ช่วงไข่ตก มูกจะใสเหมือนไข่ขาวดิบและลื่นค่ะ
-
จับสัญญาณจากร่างกาย:
- อาจรู้สึกเจ็บบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง
- อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงรุ่งเช้า
ถ้ารอบเดือนของคุณไม่ปกติเนื่องจากเพิ่งหยุดยาคุม แนะนำให้เริ่มตรวจในช่วงกลางรอบเดือนที่คุณคิดว่าใกล้เคียง เพื่อให้จับการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาแพทย์สูตินรีแพทย์เพื่อช่วยคำนวณได้ค่ะ
ถ้ายากมีลูกก้อปล่อยเลยใช่มัยค่ะนานมัยค่ะกว่าจะมีลูกค่ะ
ถ้าคุณต้องการมีลูกหลังหยุดใช้ยาคุม สามารถเริ่มปล่อยให้มีการตั้งครรภ์ได้เลยค่ะ แต่เวลาที่จะตั้งครรภ์ได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สุขภาพร่างกายของคุณ สุขภาพของคู่ และระบบฮอร์โมนที่กลับมาทำงานปกติค่ะ ลองพิจารณาปัจจัยสำคัญนี้:
1. การฟื้นตัวของระบบฮอร์โมนหลังหยุดยาคุม:
- หลังจากหยุดใช้ยาคุมกำเนิด ร่างกายอาจใช้เวลาปรับตัวกลับสู่ภาวะตกไข่ปกติ บางคนอาจฟื้นตัวเร็ว และมีโอกาสตั้งครรภ์ในช่วง 1-3 เดือนแรกหลังหยุดใช้ แต่บางคนอาจใช้เวลานานถึง 6 เดือน หรือมากกว่านั้น (โดยเฉพาะหลังฉีดยาคุมค่ะ)
- รอบเดือนที่ไม่มาอาจเป็นผลจากฮอร์โมนในยาคุมที่ยังเหลืออยู่ในระบบ ทางที่ดีควรรอให้ประจำเดือนกลับมาสม่ำเสมอเพื่อการคำนวณวันไข่ตกที่แม่นยำค่ะ
2. ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการตั้งครรภ์:
- อายุ: อายุที่เหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์อยู่ในช่วง 20-35 ปี การตั้งครรภ์ในวัยมากกว่า 35 ปีอาจต้องใช้เวลานานขึ้นค่ะ
- สุขภาพโดยรวม: ภาวะสุขภาพ เช่น น้ำหนักตัวที่สมดุล ความเครียด หรือการมีโรคเรื้อรัง อาจส่งผลต่อโอกาสตั้งครรภ์
- สุขภาพฝ่ายชาย: จำนวนและคุณภาพของสเปิร์มฝ่ายชายก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกันค่ะ
3. คำแนะนำหากต้องการมีลูก:
- หากคุณและคู่ต้องการมีลูก ให้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันตกไข่เพื่อเพิ่มโอกาสค่ะ (สามารถใช้ชุดตรวจวันไข่ตกเพื่อช่วยได้)
- ทานอาหารที่บำรุงระบบเจริญพันธุ์ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ที่มีวิตามินซี และอาหารที่มีโฟเลต
- หากพยายามปล่อยมาแล้ว 6 เดือนถึง 1 ปี แต่ยังไม่สำเร็จ ควรปรึกษาแพทย์สูตินรีแพทย์เพื่อประเมินภาวะเจริญพันธุ์ของทั้งคุณและคู่ค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยตอบคำถามและเป็นแนวทางให้คุณนะคะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามมาได้เลยค่ะ!