เริ่มฝังยาคุมเดือน กรกฎาคมปี67 ช่วงแรกๆมาบ่อย มาถี่ แล้วก็กระปริบกระปรอย พอตอนท้ายปี67ถึงต้นปี68 ประจำเดือนก็มาทุกๆ2อาทิตย์ เช่น 2อาทิตย์มา อีก2อาทิตย์ไม่มี เป็นแบบนี้ 2-3 เดือนเลย แล้วพอเดือนเมษา วันที่14-25 ก็มาอีก แล้วก็หยุดไป พอเดือนพฤษภาก็เริ่มมาอีกตั้งแต่วันที่1-31 เลยค่ะ ช่วงสิ้นเดือนมีอาการหน้ามืดบ่อยๆ แต่ก็ค่อยๆดีขึ้น ต่อมาเดือนมิถุนา ประจำเดือนก็หายไป2-3 วัน แล้ววันที่4 ก็เริ่มมาอีกครั้งแต่มันคือสีแดงสดไม่ใช่สีน้ำตาล หรือค่อนไปทางเข้มเลยค่ะ สีแดงแถมมาเยอะ ช่วงเดือนที่ผ่านมาหรือเดือนก่อนๆจะเป็นสีน้ำตาล-แดงน้ำตาล-น้ำตาบเข้มค่ะ แต่เดือนนี้อยู่ๆก็มาเป็นสีแดงสด แบบนี้ยังปกติไหมคะ
การเปลี่ยนแปลงของประจำเดือนหลังจากการฝังยาคุมเกิดขึ้นได้บ่อยและถือว่าเป็นเรื่องปกติในช่วงแรก เนื่องจากฮอร์โมนในยาฝังจะไปปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายคุณ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบที่คุณกล่าวมาอาจมีทั้งปัจจัยจากยาฝังเองหรือปัจจัยสุขภาพอื่นร่วมด้วย ขอสรุปเป็นประเด็นดังนี้ค่ะ:
-
ลักษณะของประจำเดือนในช่วงเริ่มต้น:
- ในช่วงแรกของการฝังยาคุม ร่างกายจะปรับตัว ทำให้เกิดเลือดออกไม่สม่ำเสมอ เช่น กระปริบกระปรอยหรือมาแบบไม่เป็นรอบปกติ ซึ่งนี่ถือเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยค่ะ
- บางคนอาจมีเลือดออกทุก 2 อาทิตย์ หรือมาแบบถี่ในช่วง 6 เดือนแรก
-
เลือดออกต่อเนื่องในเดือนพฤษภา:
- การที่ประจำเดือนหรือเลือดออกเกือบทั้งเดือน อาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนจากยาฝัง หรือเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ภาวะโลหิตจางจากการเสียเลือดมาก
- อาการหน้ามืดที่คุณเจอ อาจเกิดจากการเสียเลือดหรือความเข้มข้นของเลือดลดลง
-
เลือดสีแดงสดในเดือนมิถุนายน:
- เลือดสีแดงสดที่ออกมามาก อาจเกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกมีการหลุดลอกมากขึ้น หรือการที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
- หากเลือดจำนวนมากและไม่หยุดใน 7 วัน หรือมีอาการผิดปกติอื่น เช่น ปวดท้องรุนแรง เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือเหนื่อยล้าอย่างผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
ข้อแนะนำ:
- ติดตามลักษณะและจำนวนของเลือดประจำเดือนต่อเนื่อง เพื่อนำข้อมูลไปปรึกษาแพทย์
- หากคุณไม่เคยรับการตรวจสุขภาพมดลูกหรือฮอร์โมน แนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมิน และตรวจสอบสาเหตุของปัญหาเลือดประจำเดือนที่มาไม่ปกติ
- ระหว่างนี้ควรเพิ่มการพักผ่อน ทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หรืออาหารเสริมธาตุเหล็ก
สถานการณ์ที่คุณกล่าวมาไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก็ควรติดตามกับแพทย์เป็นระยะเพื่อความมั่นใจในสุขภาพของคุณเองค่ะ